ในสายงานอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี การเกิดไฟฟ้าสถิตอาจก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และที่สำคัญคือความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเอง “รองเท้ากันไฟฟ้าสถิต” หรือ ESD (Electrostatic Discharge) Footwear จึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เซฟตี้ที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับบางสายอาชีพ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า รองเท้ากันไฟฟ้าสถิตคืออะไร และเหมาะกับงานแบบไหนบ้าง

รองเท้ากันไฟฟ้าสถิตคืออะไร?
รองเท้ากันไฟฟ้าสถิต คือรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อลดหรือระบายประจุไฟฟ้าสถิตที่สะสมอยู่ในร่างกายของผู้สวมใส่ ออกไปสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย โดยไม่ก่อให้เกิดประกายไฟหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไวต่อไฟฟ้าสถิต ซึ่งแตกต่างจากรองเท้ากันไฟฟ้าช็อตที่ป้องกันไฟฟ้าแรงสูงไม่ให้ไหลผ่านร่างกาย
เหมาะกับงานแบบไหน?
รองเท้ากันไฟฟ้าสถิตเหมาะกับงานที่ต้องควบคุมระดับไฟฟ้าสถิตเป็นพิเศษ เช่น:
- งานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- งานประกอบชิ้นส่วนแผงวงจร
- การผลิตเซมิคอนดักเตอร์
- งานตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- งานอุตสาหกรรมเคมีและเภสัชกรรม
- ลดโอกาสเกิดประกายไฟในพื้นที่ที่มีไอระเหยไวไฟ
- งานในห้องคลีนรูม (Cleanroom)
- ป้องกันฝุ่นหรืออนุภาคที่เกิดจากไฟฟ้าสถิต
- รักษาสภาพแวดล้อมที่ควบคุมความสะอาดอย่างเข้มงวด
- งานในอุตสาหกรรมยานยนต์และอากาศยาน
- ช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตที่อาจกระทบต่อระบบควบคุมที่ละเอียดอ่อน
- งานศูนย์ข้อมูลและไอที (Data Center)
- ป้องกันไฟฟ้าสถิตที่อาจสร้างความเสียหายให้กับเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์สำคัญ
ข้อควรรู้ก่อนเลือกใช้
- ตรวจสอบว่ารองเท้ามีมาตรฐาน ESD หรือไม่ (เช่น EN 61340, ASTM F2412)
- หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับถุงเท้าฉนวนสูง
- พื้นที่ทำงานควรมีระบบระบายไฟฟ้าสถิตร่วมด้วย เช่น พื้น ESD หรือเสื่อป้องกันไฟฟ้าสถิต
สรุป
รองเท้ากันไฟฟ้าสถิต ไม่เพียงแต่ปกป้องชีวิตของผู้สวมใส่ แต่ยังช่วยรักษาอุปกรณ์ที่มีความไวต่อประจุไฟฟ้าให้ปลอดภัยจากความเสียหาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนและต้องการความแม่นยำสูง การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน